วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แนวคิดการพัฒนาบุคลากร..ตอนจบ

           วันนี้ ขออนุญาตินำเสนออักษรตัวสุดท้ายของคำว่า เอี่ยม .. เพื่อให้ครบถ้วนกระบวนความของคำว่า  IEAM โดยตัวสุดท้ายที่ขออนุญาตนำเสนอในวันนี้  คือตัว  M
           มาจาก MQ (Moral Quotient) เป็นระดับจริยธรรมศีลธรรมบุคคล ซึ่งสามารถการควบคุมตนเอง มีความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ มีความกตัญญู เป็นคนดี มีระเบียบวินัย มีสำนึกผิดชอบชั่วดี และเคารพนับถือผู้อื่น มีความรับผิดชอบต่อตนเองต่อสังคม   คงไม่ต้องอธิบายความให้มากไปกว่านี้ว่าคืออะไร   
             การที่องค์กรมีคนทำงานในหน้าที่ ในความรับผิดชอบหรือในงานที่รับมอบหมายที่มีระดับของจริยธรรมสูง  ย่อมผ่านขบวนความคิดในเชิงกลยุทธ์หรือยุทธศาสตร์สายขาว   ผลของงานที่บรรลุเป้าหมายขององค์กรก็จะไม่ไปทำร้ายคนอื่น ไม่ทำร้ายสังคม หรือประเทศชาติ   ในทางตรงกันข้ามหากคนขององค์กรมีระดับจริยธรรมต่ำการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ขององค์กร  อาจไม่ได้คำนึงถึงจริยธรรมซักเท่าใด  ใครจะเป็นอย่างใดไม่รู้ ไม่สนใจขอข้าพเจ้าได้ประโยชน์เป็นพอ  ตัวอย่างก็มีให้เห็นในสังคมบ้านเรามากมายหลายองค์กร  อย่างที่เป็นข่าวอยู่วัน สองวันนี้ ก็เฮียฮอนกฮูก  ที่ออกมาให้ข่าวว่าผู้หญิงคนหนึ่ง คบผู้ชายที่ละหลายคน การที่เกิดท้องและมีลูกขึ้นมานั้นไม่ได้เกิดจากคนที่เป็นสินค้าของตนเอง เพื่อฟอกสินค้าของตนเองให้คงอยู่และสามารถขายได้  สร้างมูลค่า ทำกำไรให้กิจการตนเอง โดยไม่สนใจว่าสิ่งที่ตนเองพูดและทำนั้นมันเป็นการย่ำยีคนอื่นหรือไม่  ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็มาบอกต่อประชาชนคนที่เป็นลูกค้าของตนว่า ฉันจะไม่เสนอขายสินค้าตัวนี้แล้วนะ เพราะสินค้าของฉันมันคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน   ซึ่งเป็นตัวอย่างได้อย่างดีว่าคนขององค์กรหรือจะผู้บริหารอะไรก็ตามแต่นั้น มีระดับจริยธรรมต่ำ ผลที่ตามมาลูกค้าอาจแซงซั่นไม่ซื้อสินค้าหรือบริการขององค์กรนั้นได้
              หากองค์กรของท่านต้องการที่คงความเป็นองค์กรของท่านไว้ จึงจำเป็นต้องพัฒนาคนของตนเองเพื่อยกระดับจริยธรรมให้สูงขึ้น
              จากที่เขียนมาทั้ง 3 ตอน รวมตอนนี้ทั้ง 4 ตอน  เมื่อรวม I E A M ก็อ่านออกเสียพ้องกับภาษาไทยเราว่า เอี่ยม  หากขาดตัวใดตัวหนึ่งไปคนในองค์กรของเราก็จะไม่ เอี่ยม  โดยเฉพาะหากขากตัวสุดท้ายคือตัว  M  คนคนนั้นก็จะเป็นได้เพียง I E A  อ่านออกเสียงภาษาไทยแล้วถ้าเพี้ยนไป เป็นเสียงหอหีบไปซะละก็ มันเป็น หอสระเอีย..และมีวรรณยุกต์โท  มันก็....
              ดังนั้น การพัฒนาคนเราควรที่จะพัฒนาเพื่อยกระดับพร้อมกันทั้ง 4 ด้าน  ซึ่งจะเป็นโจทย์ที่ยากสำหรับนักพัฒนาคน  เพราะบางด้านมันเป็น nature ของคนที่อาจจะพัฒนายากสำหรับบางคน  ซึ่งหากจะพูดให้เห็นภาพชัดตามสำนวนไทยเราก็คือ สันดอนขุดได้ แต่สันดานนั้นขุดยาก   แล้วท่านละอยากจะมีคนที่ I E A M ไว้ในองค์กรหรือไม่  ถ้ามีรักษาเขาไว้ด้วยนะครับ...+++

แนวคิดการพัฒนาบุคลากรขององค์กร.. (ต่อ)

              ขออนุญาตินำเสนอเพิ่มเติมจากครั้งที่แล้วนะครับ วันนี้ ว่ากันด้วยเรื่องของอักษรตัวสามของ เอี่ยม  คือ A   มาจาก AQ (adversity Quotient) เป็นศักยภาพที่บุคคลสามารถเผชิญกับปัญหา และพยายามหาหนทางแก้ไข อย่างไม่หยุดหย่อน ด้วยจิตใจที่จะพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง  ผู้ที่เป็นเจ้าของความคิดนี้คือ ดอกเตอร์ Paul G.Stoltz  และได้เสนอแนวทางพัฒนา สามารถเผชิญ กับปัญหาและพยายามหาหนทางแก้ไขอย่างไม่ยอมที่จะท้อถอย  โดยเขาได้แบ่งลักษณะของบุคคล เมื่อเผชิญปัญหาโดยเทียบเคียงกับนักไต่เขาไว้ 3  แบบ  แบบที่หนึ่ง-เป็นผู้ยอมหยุดเดินทางเมื่อเผชิญปัญหา เป็นพวกที่ปฏิเสธความท้าทายอย่างสิ้นเชิง  ไม่คำนึงถึงศักยภาพที่ตนมีอยู่ที่จะจัดการกับปัญหาได้   พยายามหลบหลีกความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นทุกวิถีทาง  ไม่มีความทะเยอทะยาน ขาดแรงจูงใจ  เป็นตัวถ่วงในองค์กร   แบบที่สอง-เป็นพวกที่หยุดพักพิงเมื่อได้ที่เหมาะ มีลักษณะ วิ่งไปข้างหน้าบ้างและแล้วก็หยุดลง  หาพื้นที่ราบซึ่งจะได้พบกับปัญหาอุปสรรคเพียงเล็กน้อย ถอยห่างจากการเรียนรู้ สิ่งน่าตื่นเต้น การเติบโต และความสำเร็จที่สูงขึ้นไป ทำในระดับเพียงพอที่จะไม่เป็นที่สังเกตได้ ได้แก่พยายามไม่ทำให้โดดเด่นเกินหน้าใคร   แบบที่สาม-ผู้ที่รุกไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่งมีลักษณะ เป็นผู้ที่อุทิศตนเองเพื่อมุ่งไปสู่จุดที่ดีขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่เคยรู้สึกพอใจ ณ จุดปัจจุบันเสียทีเดียว  สร้างสิ่งใหม่ๆให้ตนเองและองค์กรของตนอย่างต่อเนื่อง สร้างแรงจูงใจให้ตนเอง และสร้างวินัยแก่ตนเอง และสนุกกับสิ่งท้าทายใหม่ๆ
              หัวใจของ
AQ คือดำเนินต่อไปไม่หยุดยั้ง ไม่ท้อถอย แต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่มี AQ ดี ซึ่งเปรียบได้กับคนที่พยายามไต่เขาต่อไปไม่หยุดหย่อน จะไม่รู้สึกเหนื่อยอ่อน จะไม่รู้สึก ลังเลใจ ที่จะทำต่อไป จะไม่รู้สึกเหงา แต่เป็นเพราะเขารู้จักที่จะให้กำลังใจตนเองสู้ต่อไป เติมพลังให้ตนเอง ตลอดเวลาที่ทำให้ เขาแตกต่างจากคนอื่นและกัดฟันสู้อยู่ไม่ถอย  สิ่งที่เขาต้องการหากเปรียบกับการทำงาน มิใช่ต้องการเปอร์เซ็นต์เงินเดือนขึ้นในอัตราสูงๆ เป็นผลตอบแทน เพราะนั่นเป็นเพียงผลพลอยได้ สิ่งที่เขาต้องการแท้ที่จริงคือ เป้าหมายของงานที่ดีขึ้น อย่างไม่หยุดหย่อน 

              มาถึงตอนนี้ท่านคงจะเห็นได้แล้วว่า AQ ก็มีประโยชน์ต่อการทำงานของคนในแต่ละองค์กรไม่น้อย  หากคนได้รับการพัฒนา ความคิดดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรอย่างมาก

10 วลีที่ทรงพลังเพื่อสร้างความคิดเชิงบวกให้คนคิดบวก


10 วลีเพื่อสร้างความคิดเชิงบวก
ประกอบด้วย

ฉันผิดเอง (I am wrong)คำพูดที่เปลี่ยนทัศนคติได้ดีที่สุด ช่วยพัฒนาให้สัมพันธภาพได้ดีที่สุด เปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร ยุติการโต้แย้ง
ฉันขอโทษ (I am sorry)กล่าวคำนี้ให้เป็นนิสัย เป็นการแสดงให้เห็นว่าคุณนั้นต้องการรักษาความสัมพันธ์กับคู่กรณีของคุณ การกล่าวคำขอโทษที่ดีที่สุดต้องออกมาจากใจ
คุณทำได้ (You can do It)ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่าต้องทำให้ได้ และลงมือทันที การกล่าววลีนี้ให้กับตัวเองหรือผู้อื่นกล่าวให้ มันจะช่วยเพิ่มกำลังใจให้เราอย่างมาก หัดบอกตัวเองและคนข้างๆอย่างสม่ำเสมอ
ฉันเชื่อมั่นในตัวคุณ (I believe in you)*คำพูดสำหรับผู้นำ เพื่อใช้พูดสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อให้กำลังใจผู้อื่นที่ต้องการความช่วยเหลือ วิธีการที่เราจะแสดงความเชื่อมั่นในคนอื่น ก็คือการเปิดโอกาสให้คนอื่นแสดงความสามารถออกมา
ฉันภูมิใจในตัวคุณ (I am proud in you)เมื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นแสดงความสามารถออกมา ผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไรก็ตาม ควรกล่าวคำนี้ออกมา มีพลังสูงมากในการสร้างขวัญกำลังใจ
ขอบคุณ (Thank you)คำนี้พูดไม่ยาก และหลายคนก็ชอบฟังคำนี้แม้แต่ตัวคุณเอง
ฉันต้องการคุณ (I need you)*ผู้นำคนเดียวไม่สามารถนำพาองค์กรให้สำเร็จได้โดยลำพัง และเมื่อคุณกล่าวคำนี้ออกมาเป็นการสร้างบรรยากาศเชิงบวกขึ้นมา
ฉันวางใจในตัวคุณ (I trust you) *เราจำเป็นจะต้องไว้วางใจเพื่อนร่วมงาน ครอบครัว กฏทองของคำๆนี้ “จงปฏิบัติต่อผู้อื่น เหมือนที่อยากให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อคุณ และงานจะรุล่วงไปได้ด้วยดี”
ฉันเคารพคุณ (I respect you)เราจะได้รับความเคารพกลับมา ก็คือเราต้องเคารพผู้อื่นก่อนนั่นเอง การเคารพคนที่คุณทำงานด้วยสำคัญที่สุด หากขาดการเคารพผู้อื่นก็แสดงว่าเราไม่ใช่ผู้นำที่แท้จริง
ฉันรักคุณ (I love you)คำพูดที่อบอุ่นที่สุด ทรงพลังที่สุด ที่จะโอบกอดทุกคนเอาไว้
คำกล่าวทั้ง 10 วลีนี้ ถูกเขียนขึ้นในหนังสือ TEN powerful phrases for Positive People ที่เขียนโดย RICH DeVos ผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจ Amway


Read more: http://www.iosic.com/2012/04/ten-powerful-phrases-for-positive-people/#ixzz2dK8Za398

วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แนวคิดการพัฒนาบุคลากรขององค์กร (2)

        ต่อจากเมื่อวันก่อนที่พูดถึงการพัฒนาคนด้านของ IQ  ซึ่งมีงานวิจัยที่บอกผลการศึกษาว่าคนที่ทำงานได้งานสำเร็จมีส่วนของ IQ อยู่เพียง 20% เท่านั้น เราจึงจะพัฒนา IQ ของคนในองค์การอย่างเดียวไม่พอ นั่นคือตัว I ในคำว่า เอี่ยม”  วันนี้พูดต่อตัวที่สอง คือ ตัว  E มาจาก EQ ( Emotional Quotient ) เป็นความฉลาดทางอารมณ์  เป็นความสามารถในการรับรู้ เข้าใจอารมณ์ตนเองและผู้อื่น สามารถควบคุมอารมณ์และยับยั้งชั่งใจตนเองและแสดงออกอย่างเหมาะสม รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา รู้จักรอคอย รู้จักกฎเกณฑ์ระเบียบวินัย มีจิตใจร่าเริงแจ่มใส มองโลกในแง่ดี สามารถปรับตัวเข้ากับสังคม สถานการณ์รอบข้างได้ดี มีความคิดสร้างสรรค์ กระตือรือร้น มีแรงจูงใจ อยากประสบความสำเร็จ เห็นคุณค่าและเชื่อมั่นในตนเอง

                 การที่คนมี EQ  สูงก็จะสามารถปรับเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาขึ้นได้ง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้เขาจึงหันมาให้ความ สำคัญกับ EQ กันมาก  เนื่องจากการรู้จักความฉลาดทางอารมณ์ของตนเองเพื่อการพัฒนาและการใช้ศักยภาพของตนเองในการ การทำงานและการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและประสบความสำเร็จ  
                 ปัจจัยสำคัญของการพัฒนา EQ มี 3 ประการ คือ หนึ่ง-ความดี เป็นความสามารถในการควบคุมอารมณ์และความต้องการของตนเอง รู้จักเห็นใจผู้อื่นและมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม  สอง-ความเก่ง เป็นความสามารถในการรู้จักตนเอง มีแรงจูงใจ สามารถตัดสินใจ แก้ปัญหาและแสดงออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น  สาม-ความสุข หมายถึง ความสามารถในการดำเนินชีวิตอย่างเป็นสุข มีความภูมิใจในตนเอง พอใจในชีวิต และมีความสุขทางใจ
                     เมื่อทราบอย่างงี้แล้วเราน่าจะพอเห็นได้ว่าตัว E เป็นตัวสำคัญที่มีผลต่อผลสำเร็จของการทำงาน  มีผลงานวิจัยที่บอกว่ามากกว่า 60% ของความสามารถที่คนใช้เพื่อความสำเร็จในงานเป็นเรื่องของ EQ .....มีต่อ 

แนวคิดการพัฒนาบุคลากรขององค์กร..

             การพัฒนาคนเป็นเรื่องจำเป็นและพึงกระทำของทุกองค์กร แตกต่างกันตรงที่วิธีการและการให้ความสำคัญหรือน้ำหนักที่จะพัฒนาคนทางด้านใด ในอดีตที่ผ่านมาหรือแม้ปัจจุบันองค์กรส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นการให้ความรู้  เพิ่มทักษะในการปฏิบัติงานให้แก่คนในองค์กรเสียมากกว่า ไม่ได้ให้น้ำหนักกับการที่จะต้องพัฒนาคนให้มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ การเพิ่มพลังที่จะให้คนตั้งใจมุ่งมั่นต่อการทำงาน รวมทั้งจริยธรรมในการทำงาน โดยเฉพาะภาคราชการด้วยแล้วเรายิ่งจะเห็นภาพที่ว่านี้ได้ชัดกว่าภาคเอกชน วันนี้ที่ตั้งหัวข้อที่จั่วไว้ข้างบนนี้ ก็อยากจะพูดเรื่องการพัฒนาคนให้มีสมรรถนะที่พร้อมจะขับเคลื่อนองค์กรให้ไปสู่เป้าหมาย และเชื่อว่าทุกองค์กรคงไม่ปฏิเสธคนของตนเองที่พัฒนาแล้วแป็นคนที่เรียกว่า IEAM หรือว่า เอี่ยม คนของเราจะ เอี่ยมจะต้องมีครบ 4 ด้านถึงจะ เอี่ยม

                  อย่างแรก คือ IQ (Intelligence Quotient) เป็นความสามารถทางเชาวน์ปัญญา ซึ่งเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ แสดงออกให้เห็นผ่านพฤติกรรมต่างๆ เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดจากพันธุกรรมตลอดไปจนถึงสิ่งแวดล้อม แน่นอนเราต้องการคนที่มีระดับ IQ ปกติถึงสูงแล้วแต่ลักษณะงาน   เรื่อง IQ ของคนนี้บางท่านว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาได้ต้องย้อนไปตั้งต้นที่การปฏิสนธิโน่น   แต่ผู้เขียนได้เชื่ออย่างที่ว่า เพราะเชื่อว่า IQ เพิ่มได้ พัฒนาได้ เพียงหนึ่ง-ฝึกใช้สมอง หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องช่วยต่างๆ(ของไม่ค่อยได้ใช้มันก็ค่อยฝ่อไปบ้างละ) สอง-เปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตประจำวัน หมายความว่า ให้พยายามใช้ประสาทสัมผัสของคุณในการดำรงชีวิตประจำวันอย่างเต็มที่ทั้งการมองเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การสัมผัส การรับรส ในสิ่งต่างๆรอบตัวคุณ ทำให้เป็นนิสัยโดยการมีสติ ในการใช้ประสาทสัมผัสรับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวคุณ  สาม-เปลี่ยนกิจกรรมและความคิดของคุณ การทำอะไร ซ้ำๆซากๆ มันทำให้เกิดความเคยชิน สมองก็จะถูกให้งานในกระบวนการคิดและการตัดสินใจน้อยลง ดังนั้นหัดทำอะไรใหม่ๆบ้าง จะได้กระตุ้นการทำงานของสมองให้ตื่นตัวและมีประสิทธิภาพขึ้น สี่-ใช้ชีวิตให้ถูกสุขลักษณะ กินอาหาร ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ ... การที่จะเพิ่มระดับ  IQ ของคนในองค์กรก็น่าจะทำได้ไม่ยากใช่ไหมครับ...นี่เป็นด้านแรก  (ติดตามตอนต่อไป)
 
 
 
 
 

วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556